เทคนิคการเลือกสีชุดให้เข้ากับโทนสีผิวของตัวเอง

การเลือกเสื้อผ้าใส่ไปทำงานหรือไปข้างนอกในแต่ละวัน เคยเป็นไหมว่าบางวันสวมชุดไหนก็ดูดี แต่บางวันเปลี่ยนหลายตัวเลยกว่าจะลงตัว ทั้งๆที่ตอนซื้อเห็นคนอื่นใส่แล้วสวย ดูดี นั้นเป็นเพราะว่า “สีผิว” ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้เสื้อผ้าตัวเดียวกันใส่แล้วจึงดูดีไม่เท่ากัน

เทคนิคการเลือกสีเสื้อผ้า 

การเลือกสีของเสื้อผ้าโดยดูการโทนของสีผิว สามารถแบ่งได้ 5 สีผิว ได้แก่ 

1.ผิวขาวอมชมพู เป็นสีผิวที่ดูอ่อนเยาว์และให้ความรู้สึกถึงความเป็นคนสุขภาพดี แต่ถ้าจะยิ่งเสริมให้ดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น ควรเลือกเสื้อผ้าสีอ่อนๆ เช่น ฟ้าอมเขียว ฟ้าอ่อน โกโก้ ชมพูอ่อน ส้ม เป็นต้น คนที่ผิวขาวอมชมพูมักจะมีใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง จึงไม่เหมาะที่จะใส่เสื้อสีสด จี๊ดจ๊าด เพราะจะทำให้ดูไม่ทันสมัย 

2.ผิวขาวซีด จะมีข้อเสียนิดเดียวตรงที่ถ้าขาวซีดมากๆ ทำให้ดูเหมือนคนเจ็บป่วย สุขภาพไม่แข็งแรง ดังนั้นโทนสีที่เหมาะสมควรเป็นสีที่ค่อนข้างเข้มสักนิด เช่น แดงเข้ม เหลืองอมน้ำตาล เขียวเข้ม น้ำตาลไหม้ เป็นต้น แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเทา สีม่วง เพราะจะทำให้ดูเหมือนคนอ่อนเปลี้ยเพลียแรงมากขึ้นไปอีก 

3.ผิวขาวอมเหลือง เป็นอีกสีผิวหนึ่งที่มีความโชคดีตรงที่ใส่เสื้อผ้าสีอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะอ่อน เข้ม หรือสดใสกระแทกตา แต่ที่เวิร์คสุดๆ ควรเป็นเสื้อผ้าโทรสีอบอุ่นแลดูอ่อนโยน เช่น สีชมพู สีส้ม และควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเขียวหม่นๆ และสีเทาอ่อน เพราะจะทำให้ดูหม่น 

4.ผิวสองสีหรือผิวสีน้ำผึ้ง โทนสีที่เหมาะสมกับสีผิวนี้ คือ สีที่ค่อนข้างอ่อน โดยเฉพาะสีผสมต่างๆ เช่น น้ำตาลอมแดง เขียวอมฟ้า ชมพูอมส้ม เลือดนม เป็นต้น และหากคุณใบหน้าออกเหลืองก็ไม่เหมาะที่จะใส่เสื้อสีน้ำเงินแก่ สีคราม สีกรมท่า เพราะจะทำให้ใบหน้าดูเหลืองมากยิ่งขึ้น 

5.ผิวคล้ำ ควรเลือกโทนสีกลางๆ ที่ไม่อ่อนและสดจนเกินไป แต่ควรเลือกโทนสีเข้มๆสักหน่อย  เช่น กรมท่า น้ำตาล เข้ม ม่วง เทา เขียวเข้ม เพราะจะขับให้สีผิวดูขาวขึ้นกว่าเดิม ส่วนสีที่ต้องหลีกเลี่ยง คือ เสื้อสีแจ๊ดๆ หรือนีออน โดยเฉพาะสีแดงสด 

การเลือกสีของเสื้อผ้าให้เหมาะกับโทนสีผิวของตนเอง  จะทำให้เราใส่ชุดไหนก็ดูดี ไม่เป็นการฆ่าตัวเองตั้งแต่เลือกสีชุด แต่อย่างไรก็ตามการแต่งตัวนั้นเป็นศิลปะ สามารถปรับเปลี่ยน หรือผันไปตามแฟชั่นได้ตลอด ไม่มีอะไรตายตัว ของเพียงแค่ทำแล้วมีความสุข